การก่อกบฏของ Yemelyan Pugachev ในปี 1773-1775: การลุกฮือของชาวนาและความขัดแย้งระหว่างชนชั้นในรัสเซียศตวรรษที่ 18
การก่อกบฏของ Yemelyan Pugachev ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1773 ถึง ค.ศ. 1775 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนให้เห็นความไม่สงบและความขัดแย้งทางสังคมในรัสเซียของศตวรรษที่ 18 การลุกฮือครั้งนี้ที่นำโดย Yemelyan Pugachev อดีตนายทหารชาวCossack ได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายอย่างใหญ่หลวงในบริเวณ Ural และ Siberia ทำให้จักรพรรดินี Catherine the Great ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญในการปกครอง
สาเหตุของการลุกฮือ
การก่อกบฏของ Pugachev เกิดจากปัจจัยหลายประการที่ซ้อนทับกัน
-
ความไม่เท่าเทียมทางสังคม: รัสเซียในศตวรรษที่ 18 เป็นสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำอย่างรุนแรง ชนชั้นสูงและขุนนางครอบครองที่ดินและทรัพย์สินส่วนใหญ่ในขณะที่ชาวนาส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในสภาวะยากจน
-
การกดขี่จากเจ้าของที่ดิน: ชาวนาถูกบังคับให้ทำงานหนักโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม และถูกควบคุมอย่างเข้มงวด
-
นโยบายของรัฐบาล: นโยบายของจักรพรรดินี Catherine the Great ซึ่งมุ่งเน้นการปฏิรูปและการทำให้รัสเซียทันสมัยขึ้น ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนของชาวนา
-
ความโกรธแค้นต่อระบบแรงงานเก็งกำไร: ระบบนี้บังคับให้ชาวนาทำงานเพื่อเจ้าของที่ดินโดยไม่ได้รับค่าจ้าง และต้องเสียภาษีจำนวนมาก
การดำเนินการของ Pugachev
Yemelyan Pugachev เป็นผู้นำที่มีความสามารถและ charisma ซึ่งสามารถชักจูงชาวนา ชาวCossack และชนกลุ่มน้อยใน Siberia ให้ร่วมกับเขา
Pugachev ประกาศตนเป็น “จักรพรรดิ Peter III” ผู้ถูกปลดจากราชบัลลังก์โดย Catherine the Great และสัญญาจะยกเลิกการเป็นทาส ยึดที่ดินคืนจากขุนนาง และให้สิทธิความเสมอภาคแก่ทุกคน
ภายใต้การนำของ Pugachev กองกำลังชาวนาได้รุกคืบไปทางตะวันออก ทำลายเมืองและหมู่บ้านที่ถูกครอบครองโดยเจ้าของที่ดิน
เหตุการณ์สำคัญ | ปี |
---|---|
การลุกฮือเริ่มต้น | 1773 |
การยึด Omsk | 1774 |
การโจมตี Kazan | 1774 |
การถูกปราบปราม | 1775 |
การปราบปรามการกบฏ
จักรพรรดินี Catherine the General Alexander Suvorov ซึ่งเป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียง Suvorov ยกกำลังพลมาปราบปราม Pugachev และกองกำลังของเขาอย่างโหดเหียม Pugachev ถูกจับและถูกประหารชีวิตในปี ค.ศ. 1775
ผลกระทบต่อรัสเซีย
การก่อกบฏของ Pugachev ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์รัสเซีย
-
การยกระดับความตระหนักถึงความไม่เท่าเทียมทางสังคม: การลุกฮือนี้เปิดเผยความยากลำบากและความโกรธแค้นของชาวนาต่อระบบแรงงานเก็งกำไร
-
การปฏิรูป agrarian: หลังจากการกบฏ Catherine the Great เริ่มดำเนินนโยบายเพื่อปรับปรุงสภาพชีวิตของชาวนา เช่น การลดภาระภาษีและการให้สิทธิแก่พวกเขาในการซื้อที่ดิน
-
ความกลัวต่อการลุกฮือของประชาชน: การก่อกบฏทำให้รัฐบาลรัสเซียตระหนักถึงความจำเป็นในการควบคุมประชาชนอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการก่อกบฏในอนาคต
แม้ว่า Pugachev จะถูกปราบปรามและการลุกฮือนี้จะสิ้นสุดลง แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ก็ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมทางสังคม และสร้างสังคมที่ยุติธรรมและมั่นคง