การเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่าน พ.ศ. 2548: การต่อสู้ระหว่างอนุรักษนิยมและผู้ปฏิรูป, อิทธิพลของทัศนคติต่อโลกตะวันตก

 การเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่าน พ.ศ. 2548: การต่อสู้ระหว่างอนุรักษนิยมและผู้ปฏิรูป, อิทธิพลของทัศนคติต่อโลกตะวันตก

พ.ศ. 2548 เป็นปีที่สำคัญสำหรับประวัติศาสตร์การเมืองอิหร่าน เป็นปีที่ประชาชนชาวอิหร่านได้ลงคะแนนเสียงเลือกผู้นำประเทศเป็นครั้งแรกหลังจากการสิ้นพระชนม์ของอายะตอลลาห์ โรฮัลลาร์ ขเมไอนี อดีตผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ผู้ซึ่งครองตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นการทดสอบที่แท้จริงสำหรับระบอบการปกครองของอิหร่าน

ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปีนั้นมีสองผู้ที่มีอิทธิพลและความนิยมสูงสุด:

  • มะห์หมัด อะห์มาดีเนจาด อดีตนายกเทศมนตรีกรุงเตหะราน เป็นตัวแทนของฝ่ายอนุรักษนิยม และ
  • มูสเซวี่ คาร์โรบี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ ผู้ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของฝ่ายปฏิรูป

การเลือกตั้งครั้งนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความคาดหวังสูง

สาเหตุสำคัญที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมากมีดังนี้:

  • การสืบทอดอำนาจหลังจากขเมไอนี: การสิ้นพระชนม์ของขเมไอนี สร้างช่องว่างทางอำนาจในอิหร่าน และการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการกำหนดทิศทางของประเทศ
  • ความตึงเครียดระหว่างฝ่ายอนุรักษนิยมและฝ่ายปฏิรูป: ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศอิหร่านได้เผชิญหน้ากับการถกเถียงอย่างรุนแรงเกี่ยวกับทิศทางของประเทศ ฝ่ายอนุรักษนิยมต้องการรักษาอุดมการณ์เดิม และเน้นเรื่องความบริสุทธิ์ทางศาสนา
  • ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและโลกตะวันตก: การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและประเทศตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา

ผลการเลือกตั้งแสดงให้เห็นถึงชัยชนะของมะห์หมัด อะห์มาดีเนจาดผู้สมัครฝ่ายอนุรักษนิยม การขึ้นสู่อำนาจของอะห์มาดีเนจาดส่งผลกระทบต่ออิหร่านในหลายๆ ด้าน:

  • นโยบายต่างประเทศที่เข้มงวด: อะห์มาดีเนจาดดำเนินนโยบายต่างประเทศที่แข็งกร้าวและไม่ไว้วางใจโลกตะวันตก เขาปฏิเสธการเจรจาต่อรองกับสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับโปรแกรมพลังงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน และวิจารณ์อย่างหนักในเรื่องของศักยภาพทางทหารของอิสราเอล
ด้าน แนวโน้ม
เศรษฐกิจ การควบคุมและกำกับดูแลเศรษฐกิจที่เข้มงวดขึ้น, การลงทุนจากต่างประเทศลดลง
สังคม การบังคับใช้กฎหมายทางศาสนาอย่างเข้มงวด, การจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
การเมือง การกดขี่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง, การควบคุมสื่อมวลชนอย่างเข้มงวด
  • ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและตะวันตก: นโยบายของอะห์มาดีเนจาดทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับประเทศตะวันตกแย่ลงไปอีก สหรัฐอเมริกาและพันธมิตรในยุโรปได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน
  • ความไม่มั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลาง: นโยบายของอะห์มาดีเนจาด ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลาง อิหร่านได้สนับสนุนกลุ่มกบฏในประเทศเพื่อนบ้าน และเพิ่มความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและประเทศอาหรับ

การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี พ.ศ. 2548 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนถึงความขัดแย้งภายในสังคมอิหร่านและความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับโลกตะวันตก นโยบายของอะห์มาดีเนจาดมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของอิหร่านอย่างมาก และยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่ในปัจจุบัน

แม้ว่าอะห์มาดีเนจาดจะได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้ที่ต้องการรักษาอุดมการณ์ทางศาสนา แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่วิจารณ์นโยบายของเขา

การเลือกตั้งครั้งนี้ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับอิหร่าน และทำให้เห็นถึงความจำเป็นในการหาสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ประเพณีและการปรับตัวเข้ากับโลกปัจจุบัน